วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

รีวิวบ้านๆ แนะนำการหาบ้านเช่าในไต้หวัน [เท่าที่ข้าพเจ้ารู้]

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยนะคะ ว่าข้อมูลที่จะนำมาแชร์กันนี้ คือ "เท่าที่รู้" จริงๆ นะ!!

ตอนแรกลังเลอยู่นานมากว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม และจะเขียนยังไงดี?
เพราะเราเองก็ไม่ได้เข้าใจมันร้อยเปอร์เซนต์ รู้แค่พอเอาตัวรอดได้อ่ะ
แต่เห็นว่ามีนักเรียนใหม่ๆ มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกปี
แล้วทุกทีก็จะมีคนเอาเว็บยอดฮิตมาแปะให้ ซึ่งก็คือ www.591.com.tw
(นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดเด้อ แค่เห็นว่ามันเป็นที่นิยมเฉยๆ)



แต่ข้างในมันเป็นภาษาจีนล้วน!!
ทั้งยังอุดมไปด้วยศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับการเช่าบ้านที่แม้แต่คนมีพื้นฐานภาษาจีนยังงง!!

ถ้ามีสกิลการเดาหน่อยก็ลองใช้ Google Chrome ช่วยแปลดู
แต่ถ้าใช้ Google Chrome แล้วยังอยากจะร้องไห้อยู่... ก็ตามดิชั้นมาค่ะ!

ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า นอกจากหอพักนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแล้ว
ถ้าจะอยู่หอนอก = การอยู่บ้านเช่าค่ะ คือไต้หวันไม่มีหอพักเอกชนแบบเมืองไทย
แต่จะเป็นลักษณะบ้านเช่าที่เจ้าของเอามาปล่อยเช่าเองเป็นหลังๆ
ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ ตึกใหญ่เหมือนคอนโด ห้องแถว ห้องสุดหรู หรือรูหนู
ทั้งหมดคือบ้านเช่าที่เราต้องดีลกับเจ้าของบ้านเองเหมือนเราเช่าบ้านทั่วไปในเมืองไทย

อันดับแรก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนการหาบ้านก็คือ

  1. ทำเล - ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับสถานที่เรียน หรือทำงาน อยู่เขตไหน? ใกล้ย่านอะไร? เมื่อรู้แหล่งที่อยู่ของตัวเองแล้วก็ทดไว้ในใจก่อน
  2. งบประมาณ - บ้านเช่าในไต้หวันมีหลายราคา ตั้งแต่เดือนละสี่ห้าพันไปยันหลายหมื่น ขึ้นอยู่กับทำเล ขนาด และลักษณะบ้านที่เราต้องการ
  3. ลักษณะบ้าน - สิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดราคาบ้านได้ประมาณหนึ่ง ลักษณะบ้านที่ว่านี้ก็คือ ประเภทห้องน้ำรวม ห้องน้ำในตัว ห้องสตูดิโอ ฯลฯ 
ส่วนห้องแบบไหน เป็นยังไง เรียกยังไง เดี๋ยวค่อยมาลงในรายละเอียดกัน



ตอนนี้ ลองเปิดเว็บ www.591.com.tw แล้วมาดูไปด้วยกันจ้า


นี่คือหน้าตาเว็บ ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย พี่ Google ของเรา ก็ไม่แย่เนอะ พออ่านรู้เรื่อง
ในแท็บ Rented เราสามารถเลือกเมืองที่เราต้องการหาบ้านได้เลย

จากนั้นก็ใส่ Keyword สถานที่ที่เราต้องการ อย่างเช่นในที่นี้จะยกตัวอย่างเป็น NTNU 


แถ่นแท้นนนนน~~~
พอกดเสิร์ชไป ก็จะมีบ้านต่างๆ โผล่มาให้เราเลือกเต็มไปหมด 
พร้อมราคาให้เราประกอบการพิจารณา


แต่ถ้าบ้านที่โผล่ออกมายังไม่เป็นที่ถูกใจ เราสามารถใส่รายละเอียดในการค้นหาเพิ่มเติมได้อีก
โดยลองเลื่อนขึ้นไปดูข้างบนของหน้าเว็บเลยจ้า 


ในกรอบนี้ เราสามารถกรองการค้นหาของเราให้เฉพาะเจาะจงลงไปได้อีก 
โดยมาดูกันเป็นข้อๆ ไป

บรรทัดแรก ไม่มีอะไรซับซ้อน ก็คือให้เราเลือกได้ว่าจะหาจากชื่อเมือง 
หรือสถานีรถไฟฟ้า หรือใกล้มหาวิทยาลัยไหน ย่านไหน แหล่งช้อปอะไร เลือกได้หมด

บรรทัดต่อมา Type ก็คือประเภทบ้าน อันนี้เราคนไทยจะไม่ค่อยชินกับการเรียกของเขาเท่าไหร่
ขนาดแปลเป็นอังกฤษแล้วก็ยังอาจจะไม่เข้าใจ เรามาดูเป็นอันๆ ไปค่ะ


  1. integer layer dwelling - 整層住家 (Zhěng céng zhùjiā) คือบ้านแบบเช่าเหมาทั้งชั้น ทั้งนี้อย่าเพิ่งไปนึกถึงเพนท์เฮ้าส์สุดหรูอะไรแบบนั้น แต่บ้านในไต้หวัน ส่วนมากจะมีลักษณะเป็นตึกแถว ที่หนึ่งชั้นอาจจะมี 1 หรือ 2 ห้องใหญ่ ภายในห้องใหญ่อาจจะแบ่งเป็น 2 - 4 ห้องนอน มีห้องน้ำ 1-2 ห้อง มีครัว ภายในบ้านจะเหมือนคอนโดที่มีหลายห้องนอน โดยบันไดทางขึ้นบ้านจะแยกส่วนออกมา แต่ละห้องใหญ่อิสระจากกัน ใช้บันไดรวมของตึกร่วมกันเท่านั้น บ้านแบบนี้เหมาะกับกลุ่มเพื่อนที่มีกันหลายคน เช่าเหมาทั้งบ้านมาเลย แล้วมาจัดสรรแบ่งห้องนอนห้องน้ำ แชร์ค่าใช้จ่ายกันเอง ราคาจะอยู่ที่ หลักหมื่นปลายๆ ไปจนถึงสองสามหมื่น แล้วแต่ทำเล ถ้ามีเพื่อนหลายคน หารค่าเช่ากันก็ดูจะคุ้มอยู่นะ ตัวอย่างบ้านประเภทนี้ https://rent.591.com.tw/rent-detail-6384089.html  
  2. independently Suite - 獨立套房 (Dúlì tàofáng) ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือเป็นห้องแบบสตูดิโอ มีห้องน้ำในตัว มีครัวเล็กๆ อาจจะมีพื้นที่นั่งเล่นนิดหน่อย แล้วก็ส่วนที่นอนอาจจะเป็นชั้นลอย ยกสูงขึ้นไปเพื่อเพิ่มเนื้อที่ใช้งานข้างล่าง (อันนี้แล้วแต่ดีไซน์ของห้อง) บ้านแบบนี้จะมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง และราคาก็สูงตาม พื้นที่เหมาะกับการอยู่คนเดียว หรือมากสุดสองคน ระดับราคาอยู่ที่ประมาณ หลักพันปลายๆ ไปจนถึงสองสามหมื่น แล้วแต่ทำเล ความใหม่ และดีไซน์ ตัวอย่างบ้านประเภทนี้ https://rent.591.com.tw/rent-detail-6348007.html
  3. sublet Suite - 分租套房 (Fēn zū tàofáng) คือบ้านแบบมีห้องน้ำในตัว แต่เป็นการเอาบ้านแบบข้อ 1 มากั้นห้องใหม่ ต่อเติมให้มีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง แต่อาจจะยังใช้พื้นที่บางส่วนร่วมกับคนอื่น เช่น ที่ตากผ้า เครื่องซักผ้า ประตูหลักของบ้าน ห้องครัว ฯลฯ บ้านแบบนี้มีข้อดีคือ มีความเป็นส่วนตัวในราคาประหยัด ส่วนมากบ้านแบบนี้จะเป็นบ้านเก่าเอามาปรับปรุงใหม่ มีห้องแบบดีบ้าง แย่บ้าง ปะปนกันไป ราคาจะอยู่ที่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหมื่นต้นๆ ตัวอย่างบ้านประเภทนี้ https://rent.591.com.tw/rent-detail-6340843.html
  4. Yafang - 雅房 (Yǎ fáng) บ้านแบบนี้ถือว่าราคาเป็นมิตรกับนักเรียนนักศึกษาที่สุด คือเป็นบ้านแบบข้อ 1 ที่เจ้าของเอาห้องนอนมาแบ่งเช่าโดยไม่ได้ทำห้องน้ำในตัวให้แต่ละห้อง เพราะฉะนั้นเราต้องใช้ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น เครื่องซักผ้า ที่ตากผ้า และอื่นๆ รวมกับเพื่อนร่วมบ้านที่ไม่รู้จัก ซึ่งก็จะต้องไปเสี่ยงดวงกันเอง ว่าจะแจ็คพอตได้ Housemate แบบไหน ราคาที่ย่อมเยา ย่อมแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่น้อยลง แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีห้องนอนส่วนตัวเป็นของตัวเองนะ! บ้านแบบนี้ งบประมาณสี่ห้าพันก็หาได้แล้ว สบายกระเป๋าสุดๆ ตัวอย่างบ้าน ประเภทนี้จ้า https://rent.591.com.tw/rent-detail-4180882.html

บรรทัดต่อมาก็คือระดับราคาที่เราต้องการ ก็เลือกไปตามงบประมาณของแต่ละคนเลย

(ถ้าอ่านในมือถือ กดที่รูปดูภาพขยายได้นะจ๊ะ)



ถัดลงมาอีกคือขนาดห้อง ที่ไต้หวัน (และเหมือนจะจีนด้วย) จะใช้หน่วยเป็น Ping / 坪 (Píng) 
1 Ping จะเท่ากับประมาณ 3.3 ตร.ม. เอาไปคูณกันต่อเองเด้อ คนเขียนตกเลขจ้า... 😅

(ถ้าอ่านในมือถือ กดที่รูปดูภาพขยายได้นะจ๊ะ)



เมื่อเลือกเงื่อนไขต่างๆ ตามความต้องการแล้ว 
ข้างล่างจะมีลิสต์บ้านที่ใกล้เคียงกับความต้องการของเราโผล่ขึ้นมา
ซึ่งจะมีทั้งรูป ราคา ข้อมูลคร่าวๆ ให้เราเลือกช้อปปิ้งได้ตามสะดวก

ทีนี้ขั้นต่อไปมาดูรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับบ้านกันบ้าง






สมมติว่าเราคลิกเลือกบ้านมาสักอันนึง ลิ้งค์ก็จะพาเรามายังข้อมูลของบ้านประมาณนี้
ซึ่งก็จะมีรูปให้เราดู มีราคา มีข้อมูลโดยสังเขป 
จากการแปลของพี่ Google นั้น ภาพรวมถือว่าโอเคเลย โดยรวมแล้วน่าจะพอเข้าใจได้
จะมีแค่บางอันที่แปลเพี้ยนไปคือ 

keep a : อันนี้คือ การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งบ้านนี้ไม่ให้นะจ๊ะ เพราะนางบอก "No"
Open : เค้าแปลตรงตัวจากภาษาจีนไปหน่อย ในที่นี้คือ Open fire 5555 
คือหมายถึงใช้ไฟทำกับข้าวได้ไหมนั่นเอง ซึ่งบ้านนี้บอกว่า Can ก็คือเราสามารถใช้เตาแก๊สทำกับข้าวได้
บางที่จะไม่อนุญาตให้จุดไฟ เพราะเป็นตึกใหญ่ กลัวฟืนไฟจะไหม้ ก็อาจจะให้ใช้เตาไฟฟ้าแทน

กรอบข้างล่างถัดมาเป็นเฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ ก็ตรงตัว ตามภาพเลย
ที่เราๆ ไม่คุ้นกันน่าจะมีแค่ The fourth station คือเคเบิ้ลทีวีค่ะ
ซึ่งมีช่องเยอะมากกก เป็นร้อยได้มั้ง มีหนังฝรั่ง มีช่องต่างประเทศ ถ้าชอบดูทีวี อย่าลืมมองหาอันนี้หนา
ถ้าไม่มีอันนี้ ก็จะมีแค่ฟรีทีวีของไต้หวัน ซึ่งมีประมาณ 10 กว่าช่องได้ อันนี้แล้วแต่คนชอบจ้ะ

ทางขวามือ เป็นชื่อเจ้าของบ้าน และเบอร์โทรติดต่อ บางคนทิ้งไลน์หรืออีเมลให้ด้วย

Tips : 
ถ้าไม่มั่นใจสกิลการคุยภาษาจีนทางโทรศัพท์ หรือไม่อยากเสี่ยงดวงว่าเจ้าของบ้านจะพูดอังกฤษได้ไหม
ก็มองหาบ้านที่ทิ้งไลน์หรืออีเมลไว้ก็ได้ จะเขียนจีนหรืออังกฤษจะได้มีเวลาคิด 
สามารถเปิดดิกคุยกันได้ทั้งสองฝ่าย 😁
ไม่งั้นก็ต้องหาเพื่อนคนไต้หวัน หรือคนที่ภาษาจีนแข็งแรงช่วยคุยให้ค่ะ

ในหน้าเดียวกันนี้ เลื่อนลงไปล่างๆ ก็จะเป็นแผนที่ ให้เราดูพิกัดของบ้านได้
ว่าอยู่แห่งหนตำบลใด ตรงกับทำเลที่เราต้องการหาหรือไม่ 

หลักๆ การเลือกหาบ้านก็จะประมาณนี้ ที่เหลือก็เป็นเรื่องการเซ็นสัญญา การวางมัดจำ
และรายละเอียดปลีกย่อยที่เราจะต้องไปตกลงกับเจ้าของบ้านต่อไป

ข้างล่างนี้จะเป็น Tips ข้อควรรู้ หรือจริงๆ คือ "เท่าที่ข้าพเจ้ารู้" มาแชร์ให้อ่านกันเป็นข้อๆ ไป
  1. "เจ้าของบ้าน" ภาษาจีนเรียกว่า "ฝางตง" (房東 Fángdōng) ซึ่งเป็นคำที่เราจะได้ใช้อยู่เสมอ และข้อต่อๆ จากนี้จะใช้ "ฝางตง" แทนคำว่า "เจ้าของบ้าน" ไปเลยนะ
  2. บ้านเช่าในไต้หวันส่วนมาจะเป็นแบบ Fully furnished คือมีเฟอร์ครบพร้อมอยู่ ยกกระเป๋าเสื้อผ้ามาเข้าอยู่ได้เลย เฟอร์นิเจอร์พื้นฐานที่บ้านส่วนใหญ่จะมีให้ และควรมี คือ เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือ เก้าอี้ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น และแอร์ ส่วนถ้าบ้านไหนจะมีให้มากกว่านี้ ก็อยู่ที่ความใจป้ำของฝางตงค่ะ แต่หลักๆ สิ่งที่ลิสต์มาควรจะต้องมี!!
  3. การทำสัญญาเช่าบ้าน ส่วนมากจะทำอย่างน้อย 1 ปี มีบ้างที่จะอนุโลมให้ทำ 6 เดือนได้ ซึ่งหาค่อนข้างยาก และฝางตงก็จะคิดค่าเช่าแพงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเจรจากันของทั้งสองฝ่าย ออดอ้อนดีๆ ก็อาจจะพอหา 3 เดือน 6 เดือนได้ ขึ้นอยู่กับสกิลการเจรจา
  4. ก่อนจะทำการเซ็นสัญญา สิ่งที่ต้องคุยกันให้เรียบร้อยคือ นอกเหนือจากค่าเช่าบ้านแล้ว เรายังต้องจ่ายค่าอะไรเพิ่มเองอีกบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าเคเบิ้ลทีวี ค่าแก๊ส ค่าส่วนกลางตึก ฯลฯ บางบ้านฝางตงจะเหมาไปในค่าเช่าแล้ว แต่บางที่เราต้องจ่ายเองต่างหาก หรือจ่ายเองบางส่วน อันนี้ต้องตกลงกันให้ดีแต่ต้น เพราะเราต้องเอามาคิดรวมกับงบค่าเช่าด้วยนะ อย่าดูแต่เลขตัวแดงๆ ในหน้าเว็บ ที่ดูเหมือนจะราคาถูก แต่บวกนั่นบวกนี่ทีหลังแล้วจะเป็นลม ซึ่งโดยทั่วไปเท่าที่เจอมา ค่าน้ำ - ไฟ - แก๊ส ลูกบ้านจ่าย ค่าเน็ต - เคเบิ้ล - ส่วนกลาง จะรวมไปในค่าเช่าบ้านแล้ว แต่ถ้าบ้านไหนกำหนดว่าให้ลูกบ้านจ่ายเองหมด ก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไร แค่ฝางตงแอบงก!! ถ้ามีทางเลือกอื่นก็อย่าไปเอาบ้านนี้!! 555
  5. ค่าน้ำ-ไฟ-แก๊สที่ไต้หวัน จะเก็บทุก 2 เดือน บางบ้านให้จ่ายเองกับรัฐบาลในเรทรัฐบาล บางบ้านให้จ่ายกับฝางตง และเป็นเรทที่ฝางตงบวกเพิ่มเองด้วย!!  เราไม่แน่ใจว่าแบบนี้ผิดกฎหมายหรือเปล่า แต่ถ้าไม่สบายใจหรือคิดว่าไม่คุ้ม ก็อย่าไปเอานะ บ้านที่ตรงไปตรงมาให้เราจ่ายกับรัฐเองยังมีอีกเยอะ ถ้าเค้าบอกว่าเก็บแบบนี้กันทั้งนั้นก็อย่าเพิ่งไปเชื่อ ปล. ถ้าจำไม่ผิดค่าไฟรัฐบาลหน่วยละประมาณ 3-4 NT มั้ง (เมื่อสี่ห้าปีที่แล้ว ตอนนี้ไม่รู้ขึ้นไปรึยัง) แต่ฝางตงบางบ้านมาเก็บเราหน่วยละ 10 บาทเลยนะเออ!!
  6. ประมาณการค่าน้ำค่าไฟคร่าวๆ อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัว เราเช่าห้องแบบที่ 3 คือมีห้องน้ำในตัว แต่มีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกับคนอื่นบางส่วน (เครื่องซักผ้า ไฟทางเดิน เครื่องทำน้ำร้อน) บ้านเราไม่คิดค่าน้ำ คิดแต่ค่าไฟห้องเราเองตามเรทรัฐบาล + กับค่าไฟส่วนกลางที่ต้องหารกับเพื่อนร่วมบ้าน ค่าเช่ารวมค่าเน็ตกับเคเบิ้ลทีวีไปแล้ว ไม่มีแก๊ส ไม่มีครัว เนื้อที่ห้องประมาณ 10 ตร.ม. (เล็กมากกกกกก 555) มีเฟอร์ครบ มีแอร์ มีตู้เย็น มีทีวีให้ ค่าห้องเดือนละ 8,500 NT ต่อเดือน + ค่าไฟ 800 - 1000 ต่อ 2 เดือน เพราะฉะนั้น เท่ากับงบที่เราต้องเผื่อไว้เป็นค่าบ้านคือ 9,000 NT 
  7. ระบบแก๊สของไต้หวัน เป็นระบบเดินท่อต่อตรงเข้าบ้านเหมือนปะปา ไม่ต้องคอยซื้อถังเปลี่ยนถังเหมือนบ้านเรา ในบ้านจะมีมิเตอร์แก๊สติดตั้งอยู่ ส่วนมากอยู่ที่ระเบียง บ้านเช่าบางที่ เราจะต้องจดมิเตอร์แก๊สไปเขียนในตารางหน้าบ้านด้วยตัวเองทุก 2 เดือน และในแต่ละปีจะมีเจ้าหน้าที่มากดออดขอตรวจสอบสภาพของมิเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ถ้าได้ยินเค้าพูดอะไร "หว่าซือๆ" (瓦斯 Wǎsī = แก๊ส) ก็อย่าได้ตกใจไป เขามาเช็คอุปกรณ์แก๊สตามระยะเวลาที่กำหนดเฉยๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราและเพื่อนบ้านโดยรอบนะจ๊ะ
  8. อย่าลืมถามฝางตงเรื่องการทิ้งขยะ ต้องทิ้งที่ไหน? รถขยะเขตนี้มากี่โมง? มีที่ทิ้งขยะรีไซเคิลต่างหากไหม? รายละเอียดเรื่องขยะๆ ถ้ามีเวลาจะมาเขียนอธิบายเพิ่มเติมให้น้า
  9. นึกไม่ออกแล้ว แต่ถ้านึกอะไรออกเพิ่มเติมจะมา Edit ใส่เพิ่มให้ค่ะ 😇
นอกเหนือจากการหาบ้านเช่าผ่านเว็บตามวิธีการข้างบนแล้ว 
ก็ยังพอมีทางเลือกอื่นให้เลือกสรรอีกสองสามทาง ดังนี้
  1. ในกรณีที่เป็นนักศึกษาที่เรียนป.ตรี โท เอก หอในของมหาลัยคือคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ เพราะทั้งราคาถูก ทำเลดีใกล้ที่เรียน จองง่ายผ่านเว็บของมหาลัย และนศ.ต่างชาติก็มักจะได้สิทธิ์ในการจองหอก่อนเพื่อนอยู่แล้ว แต่ถ้าไปเรียนแค่ภาษา ทางเลือกนี้ก็จะถูกตัดไป เพราะส่วนมากมหาลัยไม่ได้มีพื้นที่เพียงพอเพื่อรองรับนักเรียนภาษาด้วย 
  2. เข้ากลุ่ม Looking for Roommates or Apartments in Taipei and Taiwan ใน Facebook ไปเลยจ้า เป็นแหล่งรวมชาวต่างชาติ ประเทศต่างๆ ที่ต้องการหาบ้าน หารูมเมท หาคนเช่าต่อ ถ้าอยากได้เพื่อน อยากได้รูมเมทเป็นคนต่างชาติไว้ฝึกภาษา ก็เชิญเข้าไปเลือกชมเลือกช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัย ทางเลือกนี้เหมาะกับผู้ที่ภาษาอังกฤษพอได้ และมองหาเพื่อนใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ
  3. สำหรับคนเรียนภาษาที่ NTNU / NTU หรือระแวกใกล้เคียง (คนเรียนที่อื่นต้องขอโทษด้วย พอดีข้าพเจ้าเรียนอยู่ที่นี่ และรู้จักอยู่ที่เดียว) ขอแนะนำ Lucky House Taipei (นี่ก็ไม่ได้ค่าโฆษณาอีก) แต่แนะนำที่นี่เพราะเจ้าของพูดภาษาอังกฤษได้ มีห้องพักเยอะมาก ถามเมื่อไหร่ก็มีห้องว่าง ระบบการเข้าพักคล้ายๆ หอพัก และเปิดมาเพื่อนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ ไม่บังคับเซ็นสัญญาระยะยาว เซ็นขั้นต่ำ 1 เดือน แต่ค่าเช่าเมื่อเทียบกับขนาดห้องแล้ว ถือว่าแพงมากกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว แต่ที่เอามาแนะนำเพราะคิดว่ามันเหมาะกับคนที่เพิ่งไปเรียนภาษาแรกๆ ยังไม่รู้ที่ทาง ไม่มีเพื่อนช่วยคุย ภาษาจีนยังไม่ได้ เวลาหาบ้านไม่ค่อยมี ถ้างบถึง และไม่คิดอะไรมาก ที่นี่ก็ถือว่าไม่ได้แย่มาก ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว มีเน็ต มีข้าวของเครื่องใช้พื้นฐานที่จำเป็นครบ ราคาอยู่ที่ประมาณ หมื่นบวกลบไปจนถึงสองหมื่น กับห้องเล็กๆ แคบๆ ที่สภาพกลางๆ (ย้ำจัง!! 555) ถ้ามีทางเลือกอื่นก็ไม่แนะนำที่นี่หรอก แต่ถ้ายังไม่มีที่ไป ก็ที่นี่แหละ ชีวิตง่าย ติดต่อเจ้าของได้ตามนามบัตรข้างล่างนี้เลยหนา ไม่ต้องอ้างอิงบล็อกนี้ หรือชื่อข้าพเจ้าหนา เจ้าของเค้าไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วย ไม่มีส่วนลดให้ แถมเค้าจะงงเปล่าๆ หนา 😅

ขอจบการรีวิวเรื่องบ้านๆ แต่เพียงเท่านี้ หวังจะมีประโยชน์ต่อชนรุ่นหลังอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย
ข้อมูลข้างต้น เป็นการแชร์ความรู้และประสบการณ์ "เท่าที่ตัวเองจะพอมี" เท่านั้น
หากมีข้อผิดพลาด หรือขาดตกบกพร่องประการใด 
รบกวนช่วยกันเพิ่มเติม หรือแจ้งให้แก้ไขได้ในคอมเม้นท์เลยน้า
มีคำถาม หรือไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามได้เด้ออออ